วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555


ข่าวโคราช-หนุ่มหล่อวิ่งราวทองโชคชัย
วงจรปิดจับภาพชัดเจนวอนแจ้งเบาะแส


 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังสามารถจับภาพหนุ่มหน้าตาดีวิ่งราวทองได้อย่างชัดเจน โดยผู้ก่อเหตุทำทีเข้ามาซื้อทอง 2 สลึง ก่อนหนึ่งครั้งเพื่อดูลาดเลา ในร้านก่อนที่ย้อยรอยมาก่อเหตุวิ่งราว ได้ทองคำไป 2 เสนรวม 6 บาท มูลค่ากว่า 1แสนบาท
เมื่อ วันที่ 8 ก.ย. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ ไชยสาร ร้อยเวร  สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านทอง เยาวราช ตรามังกร เลขที่ 56 ถนนพิชิตเชน หมู่ 1 ต.โชคชัย จ.นครราชสีมา หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุ คนร้ายบุกร้านทอง ชิงทองคำหนัก 6 บาท โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ทุกขันตอนการลงมือก่อเหตุดังกล่าว

จากการสอบถาม นางอ้อยทิพย์ กองอุบล อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า  ขณะ ยืนขายทองอยู่ที่เคาท์เตอร์ กับพนักงานในร้าน  ได้มีคนร้ายเป็นชายวัย รุ่น ผมสั้น หน้าตาดี ผิวขาว สูงประมาณ 170 ใส่เสื้อสีส้ม กางเกงยีน เดินเข้ามาภายในร้านจากนั้นขอดูสร้อยทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น เมื่อหยิบให้คนร้ายลองแล้ว คนร้ายไม่ชอบจึงขอดูเส้นใหม่  หลังจากนั้นคนร้ายได้คว้าทองคำ 3 บาท 2เส้น วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สภาพเก่า สีกลมท่าเข้มออกน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนขับ คอยดูต้นทางห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร ขับหลบหนีไปอย่างไร้วี่แวว
จากการสอบถามพนักงานในร้านทราบอีกว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุได้เข้ามาซื้อทองในร้านไป 2 สลึง เมื่อ 2 วันก่อน เพื่อดูลาดเลา ซึ่งพนักงานในร้านยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากเป็นคนหน้าตาดี สุภาพ แต่งตัวเรียบร้อยอยู่ในขั้นที่รูปหล่อมาก จึงสามารถจำหน้าได้อย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ในทุกขั้นตอนการลงมือทั้งการเข้ามาซื้อทองในครั้งแรก และมาวิงราวทอง มีกล้องวงจรปิดของร้านจับภาพได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเห็นหน้าคนร้ายชัดเจน และเชื่อว่าคนที่รู้จักกับคนในภาพจะสามารถจำผู้ที่ก่อเหตุได้
ขณะที่แนวทางการติดตามตัวหาคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำภาพคนร้ายกระจ่ายไปให้โรงพักใกล้เคียง และต้องการให้สื่อนำภาพคนร้ายไปนำเสนอเพื่อให้คนที่รู้จักกับผู้ก่อเหตุเข้าให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแก้วน้ำที่พนักงานในร้านนำมาให้คนร้ายดื่นไปตรวจหาลายนิ้วมือซึ่งสามารถเก็บลายนิ้วมือได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะได้นำไปเทียบกับลายนิ้วมือในประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าว เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น