วันเสาร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2555






 เกิดเหตุโรงงานน้ำแข็งระเบิดกลางเมืองนครราชสีมา ตัวโรงงาน เครื่องจักร และบ้านใกล้เคียงพังราบ คนงานเจ็บ 3 ราย เพื่อนบ้านดวงซวยเจ็บสาหัส คาดเครื่องจักรและถังหล่อเย็นทำงานหนักจนเกิดแรงดันสูงจนตูมสนั่นเมือง
            เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 7 ก.ย.พ.ต.ท.พิษณุ กองทองนอก สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในโรงงานน้ำแข็งเอ็น.เอ. ถ.กีฬากลาง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา จึงไปตรวจสอบ โดยมี พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก. นายชยาวุธจันทร รอง ผวจ.นครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมกำลังหน่วยกู้ภัย หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อุตสาหกรรมจังหวัด และสิ่งแวดล้อมภาค 6 ไปร่วมตรวจสอบ
            ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตน้ำแข็งและน้ำดื่มบรรจุขวด ตั้งอยู่เลขที่ 420/1 มีร่องรอยความเสียหายที่เกิดจากแรงระเบิดภายในโรงงานจนกำแพงพังทะลุ เศษกระจก กระเบื้องหลังคา เศษเหล็ก-ไม้และชิ้นส่วนเครื่องจักรปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว โดยเฉพาะถังเหล็กขนาดใหญ่ที่บรรจุสารเคมีได้กระเด็นไปกระแทกตัวอาคารพาณิชย์เลขที่ 420 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายผ้าม่าน ที่ตั้งอยู่ติดกันได้รับความเสียหายอีก 2 คูหา โดยถังเหล็กขนาดใหญ่พุ่งเสียบทะลุคาอยู่ที่กลางตัวบ้าน
รวมทั้งด้านข้างโรงงานที่มีเศษโครงเหล็ก ถังน้ำ และกระเบื้อง ถูกแรงอัดระเบิดพังเสียหายราบเป็นหน้ากองนอกจากนี้ยังมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้รับความเสียหายเล็กน้อยรวม 5 หลัง และรถยนต์อีก 2 คัน ขณะที่ภายในตัวโรงงานซึ่งมีโครงสร้างสำนักงานก็พังเสียหายยับเยิน เศษกระจก โครงอะลูมิเนียม ขวดน้ำดื่ม และน้ำแข็งหลอดกระจัดกระจายเกลื่อนบริเวณ
            ขณะเดียวกัน พบผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์รวม 4 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ช่วยกันลำเลียงส่ง รพ.มหาราช ในจำนวนนี้มีนายเศกสิทธิ์ พิกุลสวัสดิ์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านผ้าม่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกเศษเหล็กปลิวกระแทกศีรษะจนเลือดอาบ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 3 คน ประกอบด้วย นายอุทัย เพชรโคกสูง อายุ 56 ปี นายณรงค์ศักดิ์ ไชยราช อายุ 37 ปี และนางลักษณา แสนเฉลียง อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นคนงานในโรงงาน ถูกเศษกระจกบาดอาการไม่สาหัส
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกู้ภัยสารเคมีและวัตถุอันตราย ปภ.นครราชสีมา ต้องสวมชุดป้องกันสารเคมี เข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ตั้งของเครื่องจักรและถังบรรจุสารหล่อเย็นขนาดใหญ่ในตัวโรงงาน ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการระเบิด พบว่ามีรอยรั่วของสารเคมีที่วาล์วของเครื่องจักร ทราบต่อมาภายหลัง คือ สารพีออน 22 ซึ่งไม่ก่ออันตรายต่อผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์และบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากหลังเกิดระบิดได้ระเหยและเจือจางไปทั้งหมด ก่อนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงได้ทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีสารเคมีอันตรายรั่วไหลแต่อย่างใด
เบื้องต้นนายวรพจน์ ศิวะตระกูล เจ้าของโรงน้ำแข็งให้การว่า โรงงานตั้งมานาน 20 ปี ที่ผ่านมามีการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการตรวจเช็กสภาพเครื่องจักรจากช่างเทคนิคอยู่เป็นประจำ แต่ขณะเกิดเหตุมีคนงานอยู่ในไลน์ผลิตน้ำแข็ง 4 คน เดินเครื่องไปตามปกติ จนเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ถังบรรจุสารหล่อเย็นโดยไม่รู้สาเหตุ คาดว่ามูลค่าความเสียหายน่าจะประมาณ 5 แสนบาท
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากการทำปฏิกิริยาของสารหล่อเย็นในถังเก็บขนาดใหญ่ผ่านกระบวนการผลิตน้ำแข็งโดยเครื่องจักร ซึ่งอาจจะทำงานหนักเกินไป จนทำให้เกิดแรงงานมหาศาล และปะทุออกทางวาล์วและรอบเชื่อมต่อของระบบจนเกิดการระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และเท่าที่ประเมินอันตรายจากสารหล่อเย็นประเภท พีออน 22 ไม่น่าจะมีอันตรายต่อประชาชนในชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานแต่อย่างใด
ต่อมา นายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.นครราชสีมา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนสั่งการให้หน่วยงานด้านอุตสาหกรรมและด้านสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ใจกลางชุมชน หวั่นจะเกิดอันตรายจากสารเคมี รวมทั้งตรวจสอบการขออนุญาตประกอบการ ตรวจความมั่นคงของอาคารโรงงานและอาคารพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบนอกจากนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่ดูแลได้วางมาตรการตรวจสอบมาตรฐานของโรงงานน้ำแข็งทุกแห่ง โดยเฉพาะที่ตั้งอยู่กลางชุมชนว่ามีความปลอดภัยหรือไม่
ด้าน พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาประกอบการโรงงานเป็นเหตุให้เกิดระเบิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุทางตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 ซึ่งเดินทางมาเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุแล้ว จะได้สรุปหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง.


นครราชสีมา /// มนัส กบขุนทด

ข่าวโคราช-หนุ่มหล่อวิ่งราวทองโชคชัย
วงจรปิดจับภาพชัดเจนวอนแจ้งเบาะแส


 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังสามารถจับภาพหนุ่มหน้าตาดีวิ่งราวทองได้อย่างชัดเจน โดยผู้ก่อเหตุทำทีเข้ามาซื้อทอง 2 สลึง ก่อนหนึ่งครั้งเพื่อดูลาดเลา ในร้านก่อนที่ย้อยรอยมาก่อเหตุวิ่งราว ได้ทองคำไป 2 เสนรวม 6 บาท มูลค่ากว่า 1แสนบาท
เมื่อ วันที่ 8 ก.ย. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ ไชยสาร ร้อยเวร  สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านทอง เยาวราช ตรามังกร เลขที่ 56 ถนนพิชิตเชน หมู่ 1 ต.โชคชัย จ.นครราชสีมา หลังจากเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุ คนร้ายบุกร้านทอง ชิงทองคำหนัก 6 บาท โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้ทุกขันตอนการลงมือก่อเหตุดังกล่าว

จากการสอบถาม นางอ้อยทิพย์ กองอุบล อายุ 42 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า  ขณะ ยืนขายทองอยู่ที่เคาท์เตอร์ กับพนักงานในร้าน  ได้มีคนร้ายเป็นชายวัย รุ่น ผมสั้น หน้าตาดี ผิวขาว สูงประมาณ 170 ใส่เสื้อสีส้ม กางเกงยีน เดินเข้ามาภายในร้านจากนั้นขอดูสร้อยทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น เมื่อหยิบให้คนร้ายลองแล้ว คนร้ายไม่ชอบจึงขอดูเส้นใหม่  หลังจากนั้นคนร้ายได้คว้าทองคำ 3 บาท 2เส้น วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สภาพเก่า สีกลมท่าเข้มออกน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนขับ คอยดูต้นทางห่างจากร้านประมาณ 50 เมตร ขับหลบหนีไปอย่างไร้วี่แวว
จากการสอบถามพนักงานในร้านทราบอีกว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุได้เข้ามาซื้อทองในร้านไป 2 สลึง เมื่อ 2 วันก่อน เพื่อดูลาดเลา ซึ่งพนักงานในร้านยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากเป็นคนหน้าตาดี สุภาพ แต่งตัวเรียบร้อยอยู่ในขั้นที่รูปหล่อมาก จึงสามารถจำหน้าได้อย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ในทุกขั้นตอนการลงมือทั้งการเข้ามาซื้อทองในครั้งแรก และมาวิงราวทอง มีกล้องวงจรปิดของร้านจับภาพได้ทุกขั้นตอน ซึ่งเห็นหน้าคนร้ายชัดเจน และเชื่อว่าคนที่รู้จักกับคนในภาพจะสามารถจำผู้ที่ก่อเหตุได้
ขณะที่แนวทางการติดตามตัวหาคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำภาพคนร้ายกระจ่ายไปให้โรงพักใกล้เคียง และต้องการให้สื่อนำภาพคนร้ายไปนำเสนอเพื่อให้คนที่รู้จักกับผู้ก่อเหตุเข้าให้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแก้วน้ำที่พนักงานในร้านนำมาให้คนร้ายดื่นไปตรวจหาลายนิ้วมือซึ่งสามารถเก็บลายนิ้วมือได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะได้นำไปเทียบกับลายนิ้วมือในประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าว เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.


วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555


เดอะมอลล์โคราชแจกมาสด้า 3 หนุ่มกฟผ.”

ข่าวโคราช-เดอะมอลล์โคราชแจกโชค12ปี “เดอะมอลล์โคราช” ฉลองครบรอบ 12 ปี แจกโชคใหญ่รถยนต์มาสด้า 3 มูลค่า 869,000 บาท ผู้โชคดีเป็นหนุ่มการไฟฟ้าฯ ลูกค้าประจำ ที่ซื้อของในโฮมเฟรซมาร์ทก่อนหย่อนคูปอง 6 ใบ กระทั่งได้รับรางวัลใหญ่แบบไม่คาดฝัน จากคูปองที่มีสิทธิ์ 41,520 ใบ ลั่นคำขอบคุณห้างฯเดอะมอลล์ ที่ดูแลชาวโคราชมาโดยตลอด


วันที่ 2 กันยายน 2555 ที่เวทีหน้าน้ำตกบ่อปลา ชั้น 1 เดอะมอลล์นครราชสีมา น ายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา นายบุญเหลือ เจริญวัฒน์ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ร่วมพิธีจับสลากชิ้นส่วนลุ้นโชคแก่ผู้โชคดีรายการ Ready Set Shop “The mall นครราชสีมา Anniversary 12 ปีเดอะมอลล์นครราชสีมา โดยมีนายปรีชาลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ สาขานครราชสีมา และสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ การจับสลากใช้วิธีการสุ่มจับจากคูปองที่ลูกค้าส่งเข้ามาร่วมลุ้นโชคจำ
 นวน 41,520 ใบ โดยให้แขกผู้มีเกียรติ 12 คน จับคูปองขึ้นมาคนละ 1 ใบ รวม 12 ใบ ตามวาระการครบรอบ 12 ปีของเดอะมอลล์โคราช ก่อนนำมาใส่กล้องปิดทึบ เพื่อให้นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นผู้จับรางวัลผู้โชคดี 1 ใน 12 คน ท่ามกลางลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในห้างเดอะมอลล์ ที่มาคอยร่วมลุ้นโชคกันเป็นจำนวนมากผลการจับรางวัลปรากฏว่าผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลรถยนต์มาสด้า3 1.6L มูลค่า 869,000 บาท  ซึ่งเป็นเพียง 1 ใน 41,520 ใบ ได้แก่ คุณเทอดธวัช  ไชยณรงค์  ที่อยู่ 396/54 หมู่ 4 ถ.มุขมนตรี ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นประธานในพิธีได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยเพื่อแจ้งการได้รับรางวัลกับผู้โชคดี ปรากว่า คุณเทอดธวัช แสดงอาการดีใจที่ได้รับโชคแบบไม่คาดฝันมาก่อน
ต่อมาวันที่ 3 กันยายน นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไป เดอะมอลล์โคราช ทำพิธีมอบกุญแจรถยนต์มาสด้า 3 มูลค่า 869,000 บาท แก่คุณเทอดธวัช ไชยณรงค์ ผู้โชคดีที่ปัจจุบันทำงานเป็นหัวหน้าแผนกสถานีไฟฟ้าแรงสูง 2 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (สถานีส่งไฟฟ้า 4 แยกพีกาซัส) ที่เดินทางมารับรถยนต์พร้อม น.ส.จิราวรรณ ไชยณรงค์ ภรรยา ด้วยความปลื้มปิติยินดี
“...ดีใจมากที่ได้รับโชคใหญ่จากเดอะมอลล์ ผมกับภรรยาเป็นลูกค้าที่มาซื้อของในห้างเดอะมอลล์เป็นประจำ ก่อนหน้านี้ได้ซื้อของในแผนกโฮมเฟรชมาร์ท พร้อมกับหย่อนคูปองลุ้นโชคไป 6 ใบ โดยภรรยาเป็นคนดำเนินการทุกอย่าง กระทั่งได้รับโชคเป็นรถยนต์มาสด้า 3 แบบไม่คาดฝัน ซึ่งรถยนต์ที่ได้ก็จะมอบให้ภรรยานำไปใช้ เพราะเขาเป็นคนจัดการทุกอย่างให้ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณเดอะมอลล์โคราช ที่จัดรายการดี ๆ แบบนี้เพื่อตอบแทนลูกค้าในโคราช และขอให้เดอะมอลล์ได้สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เป็นห้างที่สร้างความเจริญแก่เมืองโคราชยาวนานสืบไป...” คุณเทอดธวัช ไชยณรงค์ กล่าวในที่สุด
มนัส กบขุนทด

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555


ข่าวโคราช

โคราชฝนทิ้งช่วงแล้งหนัก

ชาวนาเดือดร้อนข้าวแห้งตายเต็มทุ่ง
จ.นครราชสีมายังวิกฤติ หลายอำเภอประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงนานนับเดือน
 นาข้าวแห้งตายกินพื้นที่บริเวณกว้างสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างหนัก 

 เงินที่ลงทุนทำนาข้าวอาจสูญเปล่าหากอีก หรือ 2 อาทิตย์ฝนไม่ตก จึงวอนรัฐบาลทำฝนหลวงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนช่วยต่อชีวิตให้ต้นข้าวที่กำลังแห้งตาย
สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดนครราชสีมา นับวันจะทวีความรุ่นแรงขึ้นทุกวัน เกษตรกรในหลายพื้นที่เฝ้ารอฝนฟ้าตกลงมาเพื่อยื้อชีวิตให้ต้นข้าวที่กำลังเหี่ยวแห้งจนเป็นสีแดงเต็มท้องนา นับวันกินพื้นที่บริเวณกว้างมาขึ้นทุกวัน จนทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวเมื่อมองลงไปในท้องนาแล้วสร้างความหดหู่ใจกับเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นข้าวแห้งตายไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่สามารถจะช่วยเหลืออะไรได้

ขณะที่ เกษตรกรบางรายยังสิ้นความหวัง แม้ในแปลงนาจะแห้งแล้งจนต้นข้าวจะเหี่ยวตายไปทั้งแปลง แต่ก็ยังเฝ้าดูแลต้นข้าวที่แห้งเหี่ยวเป็นอย่างดี ยังมาช่วยกันถากหญ้าออกจากนาวข้าวที่แห้งเหี่ยว เพียงหวังว่าฟ้าฝนจะเป็นใจตกลงไม่ในอีกไม่นานซึ่งอาจจะช่วยให้ต้นข้าวฟื้นคืนชีพมาอีกครั้งหนึ่ง
นางหลง อาจสูงเนิน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7 ต.ละหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า  ทำนาวปลูกข้าวไว้จำนวน 13 ไร่ ลงทุนไปหลายหมื่นบาท ถึงวันนี้นาวข้าวแห้งแล้งจนต้นข้าวจะตายหมดแล้ว หากอีกประมาณ 1-2 อาทิตย์ ฝนไม่ตกนาข้าวอาจจะเสียหายทั้งหมด แต่ก็ยังไม่สิ้นความหวัง ได้ชักชวนสามีออกมาถากหญ้าออกจากแปลงนาที่ต้นข้าวแห้งเหี่ยวแทบจะยืนต้นตาย ด้วยหวังว่าอีกไม่นานฝนจะตกลงมา ซึ่งเป็นเพียงความหวังเดียวที่จะทำให้มีโอกาสที่จะได้เงินที่ลงทุนไปหลายหมื่นบาทกลับคืนมา แต่หากว่าฝนไม่ตกลงมาตามที่คาดหวัง เงินที่ลงทุนทำนาในครั้งนี้คงจะสูญเปล่า
ถึง จึงทำได้เพียงรอฝนตก และวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำฝนหลวงให้ฝนตกต่อชีวิตให้ต้นข้าว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ขณะเดียวกัน ก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาให้ความช่วยเหลือหากต้องทำนาใหม่อีกครั้งโดยขอให้หาพันธุ์ข้าว หรือปุ๋ย มามอบให้กับเกษตรกร เพื่อจะได้มีทุนมาทำนาอีกครั้ง เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวโคราช http://www.khaokorat.com/

เป็นเว็บให้บริการข่าวของคนโคราช

ไถ่ชีวิตโค กระบือ

ทภ.2ไถ่ชีวิตโค-กระบือถวายพระบรมฯ
 กองทัพภาคที่ จัดกิจกรรม ไถ่ชีวิตโค – กระบือ ถวายเป็นพระราชกุศล
 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ  


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.ค. ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.จีระศักด์ ชมประสพ แม่ทัพภาคที่ 2 นำกำลังพลจัดกิจกรรมถวายพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 โดยมีกำลังพลในสังกัด และครอบครัวเข้ารวมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
 กิจกรรมดังกล่าวเริ่มจันขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าร่วมกิจกิจกรรมสักการะถวายพระพร มีพิธีทำบุญเลี้ยงพระ การจัดกิจกรรรบบริจาคโลหิต การตรวจรักษากำลังพลและครอบครัวฟรี และยังมีกิจกรรมไถ่ชีวิตโค – กระบือ จำนวน 14 ตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในการจัดกิจกรรมดังกล่าวด้วย ซึ่งการไถ่ชีวิตโค-กระบือในครั้งนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลจำนวน 14 ตัว โดยทำการคัดเลือกหาทหารกองหนุนที่มีฐานะยากจน และประกอบอาชีพเกษตรกรรมเดินทางมาทำพิธีรับมอบในงานดังกล่าวด้วยสำหรับกิจกรรมถวายพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 กองทัพภาคทุกแห่งได้จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในแต่ละกองทัพภาค โดยในส่วนของกองทัพภาคที่ ได้จัดขึ้นเช่นเดียวกันโดยมีกำลังพบในสังกัดจากหน่วยตาง ๆ เดินทางมาร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมหน้า.